จุ๊ๆ เปิดโผ! 5 ธุรกิจรวยเงียบ ปี 2022
 

คาดการณ์ว่าในปี 2565 นี้คือนาทีทองของธุรกิจที่เน้นเทรนด์สะดวก ซึ่งมีหลายธุรกิจที่ถูกมองว่าเป็นดาวรุ่งเช่น ธุรกิจร้านสะดวกซัก , ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ , ขายของออนไลน์ , บริการสินเชื่อ เป็นต้น แต่เราต้องไม่ลืมว่าปัญหาทางเศรษฐกิจที่คนทั้งประเทศเจออยู่ตอนนี้คือตัวแปรสำคัญ

www.ThaiFranchiseCenter.com จึงให้ความสำคัญกับธุรกิจที่คนต้องซื้อ ต้องใช้ และเป็นธุรกิจที่เรียกว่าแทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน เหล่านี้คือธุรกิจรวยเงียบที่บางทีไม่ต้องพูดมากไม่ต้องโฆษณาเยอะแต่คนสนใจและใช้บริการจำนวนมาก

 

 

นับจากนี้สังคมไทยเดินหน้าสู่ตลาดออนไลน์เต็มรูปแบบ การตลาดแบบเดิมๆ ไม่สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ จะเห็นได้ว่าธุรกิจแทบทุกแบรนด์ต้องหันมาเน้นการตลาดออนไลน์มากขึ้น ดังนั้น ธุรกิจที่เกี่ยวข้องเช่น การจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจบริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูล ต่างได้รับความสนใจ สอดคล้องกับมูลค่าการตลาดออนไลน์ในปี 2565 ที่คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 5.65 แสนล้านบาท รวมถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นในปีนี้จะยิ่งดุเดือดมากเพราะเป็นช่องทางในการเข้าถึงของลูกค้าได้

ยกตัวอย่างชัดเจนคือบริการสั่งอาหารที่ทุกค่ายมีแอพพลิเคชั่นของตัวเองชัดเจน หรือแม้แต่ซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆ ก็มีแอพพลิเคชั่นของตัวเองเพิ่มช่องทางในการจัดส่งสินค้า สิ่งเหล่านี้คือภาพสะท้อนว่าธุรกิจในด้านไอที คนพัฒนาแอพพลิเคชั่น ที่ปรึกษาด้านการตลาดออนไลน์จะมีลูกค้ามากขึ้น จึงถือเป็นธุรกิจรวยเงียบที่น่าสนใจในปี 2565

 

2.ธุรกิจร้านสะดวกซัก
 

คาดการณ์ว่าในปี 2565 ธุรกิจร้านสะดวกซักจะมีมูลค่าการตลาดประมาณ 10,000 ล้านบาท และจะมีร้านสะดวกซักทั่วประเทศรวมกว่า 3,500 แห่ง หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ร้านสะดวกซักยังเติบโตคือ ผู้บริโภคยังเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริการซัก และอบเพื่อฆ่าเชื้อโรค ตอบโจทย์เรื่องความสะอาดระหว่างการระบาดของโรค COVID-19 ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวจะยังมีอยู่แม้การระบาดของโรคนี้จะเริ่มผ่อนคลายก็ตาม รวมถึงพฤติกรรมของคนยุคใหม่ที่เน้นสะดวก เป็นหลัก ยิ่งทำให้ธุรกิจร้านสะดวกซักดูจะตอบโจทย์การลงทุนในยุคนี้อย่างมาก

ภาพจาก ดอกเตอร์ ไทเกอร์ ลอนดรี้

และปัจจุบันมีการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ให้เลือกเพื่อเริ่มต้นธุรกิจได้ง่ายขึ้น เช่น อัลไลแอนซ์ ลอนดรี้ , ดอกเตอร์ ไทเกอร์ ลอนดรี้ เป็นต้น ซึ่งแฟรนไชส์เหล่าน้แพคเกจการลงทุนให้เลือกได้ตามต้องการ มีทีมงานมืออาชีพคอยให้คำปรึกษาและพร้อมดูแลผู้ลงทุนเป็นอย่างดี รวมถึงผู้ลงทุนอาจ พัฒนารูปแบบบริการให้สอดคล้องกับความต้องการ เช่น มีมุมทานกาแฟ มีบริการล้างรถ มีมุมนั่งพักผ่อน จะสามารถเพิ่มรายได้ให้กับผู้ลงทุนได้มากขึ้น 

 

3.ธุรกิจสุขภาพ และความงาม
 

ภาพจาก https://bit.ly/3zk1BbT

หนึ่งในธุรกิจที่เติบโตชัดเจนคือตลาดสุขภาพและความงาม อันเป็นผลมาจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ยิ่งเร่งให้ธุรกิจนี้โตแบบก้าวกระโดด ดังจะเห็นได้จาก มีหลายแบรนด์ที่เปิดตัวสินค้าเพื่อสุขภาพ สินค้าด้านความงาม ไม่นับรวมไอเท็มที่แทบจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันอย่างหน้ากากอนามัย , เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น สอดคล้องกับตัวเลขที่ระบุว่าธุรกิจเครื่องมือแพทย์ก็มีการเติบโตมากขึ้นจากปีละ 68 รายในปี 2561 เพิ่มเป็นปีละกว่า 114 รายในปี 2563 และมากขึ้นในปี 2564 ที่ผ่านมา
 

ภาพจาก https://bit.ly/3PEQ2kL

รวมถึงธุรกิจเวชภัณฑ์ยาและขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ ที่มีการเติบโตการจัดตั้งธุรกิจใหม่จากปีละ 945 รายในปี 2561 มาเป็นปีละ 1,158 รายในปี 2563 และในปี 2564 ก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเช่นกันด้วย ยังไม่นับรวมเรื่องสินค้าความงามที่ส่วนใหญ่จะมีสินค้าเพื่อสุขภาพจำหน่ายร่วมด้วย โดยปัจจุบันมีหลายแฟรนไชส์ที่ให้คนสนใจลงทุนในธุรกิจเช่น บิวตี้เซ็นเตอร์ (บีโค้) และ ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส และและเซเว่นอีเลฟเว่น เป็นต้น

 

4.ธุรกิจร้านสารพัดบริการ
 

ภาพจาก https://bit.ly/3OkWNHw

การเติบโตของตลาดออนไลน์มีผลทำให้ธุรกิจร้านสารพัดบริการเติบโตมากขึ้นชัดเจน และคาดว่าจะเป็นธุรกิจรวยเงียบที่มาแรงมาก ซึ่งธุรกิจร้านสารพัดบริการส่วนใหญ่มีการปรับตัวให้สอดคล้องกับยุคสมัย เพิ่มบริการที่หลากหลายทั้งการชำระบิล และไปรษณีย์เอกชน ที่ดึงเอาค่ายขนส่งยักษ์ใหญ่มาเป็นพันธมิตร ทำให้มีการเติบโตในธุรกิจนี้สูงและมีการแข่งขันอย่างดุเดือด คาดว่าในปี 2565 มูลค่าการตลาดจะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 22% มูลค่าประมาณ 66,000 ล้านบาท 
 

ภาพจาก https://bit.ly/3PJclpJ

  

ภาพจาก https://bit.ly/3IQespg

 

ภาพจาก https://bit.ly/3aSez7j
 

ภาพจาก https://bit.ly/3yQZNFL

 

และปัจจุบันมีการลงทุนในรูปแบบแฟรนไชส์ให้เลือกลงทุนง่ายขึ้น โดยมีหลายแฟรนไชส์น่าสนใจ เช่น ชิปป์สไมล์ เซอร์วิส ,ชิปป๊อบ , มายเซฟ , ร้านน้องฟ้า เซอร์วิส , เพย์ พอยท์ เซอร์วิส เป็นต้น อย่างไรก็ดีเคล็ดลับสำคัญในการเลือกลงทุนคือต้องมีทำเลที่เหมาะสม ซึ่งทุกแฟรนไชส์ล้วนมีทีมงานมืออาชีพ มีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน มีการวางระบบบริหารจัดการในร้านให้คนสนใจเริ่มต้นเปิดร้านได้อย่างมืออาชีพ

 

5.ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ
 

ภาพจาก https://pixabay.com/

ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงวัย (Aging Society) อย่างเต็มตัวซึ่งคาดว่าในปี 2576 จะมีสัดส่วนประชากรสูงวัย 28% ของประชากรทั้งหมด ด้วยเหตุนี้จึงผลักดันให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องผู้สูงวัยคึกคัก เติบโตมากขึ้นคาดว่าจะมีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท มีหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น การดูแลผู้สูงอายุ , ธุรกิจเพื่อช่วยฟื้นฟูบำบัดร่างกายผู้สูงอายุที่หันมาใส่ใจสุขภาพ (Health & Wellness) , ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น

โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในปี 2564 ที่ผ่านมาว่ามีการจัดตั้งธุรกิจใหม่จำนวน 52 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 79.31% ภาพรวมปัจจุบันมีกิจการทั้งหมดประมาณ 493 ราย มูลค่าทุนรวมทั้งหมดอยู่ที่ 1,615.93 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการลงทุนของต่างชาติในนิติบุคคลไทยที่ประกอบธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ มีมูลค่าการลงทุน 159.29 ล้านบาท คิดเป็น 9.86% ของการลงทุนในธุรกิจนี้ ซึ่งธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและภาคกลางเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วน 65.93% รองลงมาคือภาคเหนือและภาคตะวันออก คิดเป็น 14.20% และ 7.72%

 

ซึ่งนอกจากกลุ่มธุรกิจที่เราได้พูดถึงนี้ ยังมีอีกหลายกลุ่มธุรกิจที่น่าสนใจ เช่น การขายเครื่องดื่ม และอาหาร ซึ่งถือเป็นสินค้าที่จำเป็นต้องกินต้องใช้ และปัจจุบันก็มีการลงทุนในแบบแฟรนไชส์ให้เลือกจำนวนมาก

ข้อดีของการเลือกลงทุนแฟรนไชส์คือไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ มีอุปกรณ์พร้อมเปิดร้าน มีทีมงานให้คำปรึกษา มีการส่งเสริมด้านการตลาดเป็นอย่างดี และที่สำคัญคือมีแพคเกจลงทุนให้เลือกได้ตามงบประมาณที่เรามี ใครที่อยากรวยเงียบ อยากมีเงินเพิ่มขึ้น แนะนำให้ลองเฟ้นหาการลงทุนในแฟรนไชส์ที่เหมาะสมกับตัวเองจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กับเราได้มากขึ้น

 

ขอบคุณข้อมูล https://bit.ly/3vhpfEi , https://bit.ly/3ohkKF6  , https://bit.ly/3oh0tPY , https://bit.ly/3OfYDt3 , https://bit.ly/3aPGg0D , https://bit.ly/3v0ih5s 

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)