ใกล้จะปีใหม่กันแล้ว! ตอนนี้หลายคนคงนึกถึงแต่งานฉลอง วางแผนท่องเที่ยว แต่เชื่อว่าอีกหลายคนเช่นกันมองการณ์ไกลกว่านั้น คิดไปถึงว่าปีหน้าจะเริ่มต้นลงทุนอะไรดี จะทำธุรกิจอะไรเพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเองและครอบครัว

คาดว่าปี 2564 เศรษฐกิจจะเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้มากขึ้นและมีหลายแฟรนไชส์ที่ www.ThaiFranchiseCenter.com เชื่อว่าเป็นทางเลือกทางรอดในการลงทุนที่น่าสนใจ ในเดือนส่งท้ายปี 2563 นี้เราจัดมาเช่นเดิมกับ 6 แฟรนไชส์น่าลงทุน ต้องการลงทุนแบบไหนอย่างไรเลือกได้ตามต้องการ

 

1.ฮิปสเตอร์ สเต็ก
 

ภาพจาก FB แฟรนไชส์สเต็ก Hipster

อาหารจานเดียวโดยเฉพาะสเต็กยังคงเป็นสินค้าขายง่ายขายดีและคาดว่าจะขายดียิ่งขึ้นในปี 2564 หลายคนสนใจอยากลงทุนแต่ไม่รู้จะเริ่มต้นแบบไหน แฟรนไชส์ฮิปสเตอร์ สเต็ก ตอบโจทย์ความต้องการด้วยการมุ่งสร้างอาชีพให้คนไทยด้วยเงินลงทุนเปิดร้านสเต็ก เริ่มต้นแค่ 6,900 บาท เป็นเจ้าของร้านได้ทันที

โดยสิ่งที่จะได้รับเช่น ป้ายประชาสัมพันธ์ , วัตถุดิบ (ตามแต่แพคเกจที่เลือก) , หมวก , ร่มสนาม , คู่มือการทำสเต็กแบบต่างๆ โดยมีเมนูอร่อยให้เลือกหลากหลายเช่น สเต็กหมูพอร์คชอพ , ไก่พริกไทยดำ , ปลาดอลลี่ , เนื้อสันนอก , เนื้อริปอาย , ปลาแซลมอน เป็นต้น รวมถึงมีแพคเกจลงทุนขนาดใหญ่ให้เลือกลงทุนได้ตามต้องการ ถือเป็นแฟรนไชส์ที่เริ่มต้นด้วยทุนน้อย ความเสี่ยงต่ำ คืนทุนตั้งแต่วัตถุดิบครั้งแรก แถมยังเป็นแฟรนไชส์ที่เติบโตและขยายกิจการเพิ่มขึ้นได้ง่ายด้วย
 

 

2.โอชายะ 
 

ภาพจาก www.facebook.com/OCHAYA.Tea

โอชายะ แบรนด์เครื่องดื่มชั้นนำที่คนไทยรู้จักเป็นอย่างดี ก่อตั้งมานานกว่า 13 ปี ปัจจุบันมีสาขาทั่วประเทศกว่า 350 แห่ง จุดเด่นของโอชายะ คือสินค้าที่หลากหลาย มีหลายเมนูให้เลือกทั้ง ชา ชาผลไม้ ชาสมุนไพร และชาอื่นๆ อีกมากมาย การส่งเสริมการตลาดดีเยี่ยม มั่นใจได้ในวัตถุดิบและการบริหารจัดการ

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 350,000 บาท สิ่งที่จะได้รับ อุปกรณ์หลักสำหรับเปิดร้าน 36 รายการ , วัตถุดิบชุดแรกพร้อมขาย (ได้ประมาณ2,000 แก้ว) , การ Build-in ตามสภาพพื้นที่ ตามขนาด ตามงบประมาณของลูกค้า พร้อมทั้งมีการจัดอบรมวิธีเปิดร้าน สอนสูตรการชงเครื่องดื่มต่างๆ โดยผู้ลงทุนควรมีทำเลในย่านชุมชน ห้างร้านต่างๆ ใกล้สถานศึกษา ระยะเวลาในการคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเลและการบริหารจัดการ กำไรโดยเฉลี่ยประมาณ 35% จากราคาขาย ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่น่าสนใจลงทุนเพื่อเริ่มต้นชีวิตดีๆ ในปี 2564
 

 

3.บริษัท ควอลิตี้ คิดส์ จำกัด 
 

ภาพจาก www.facebook.com/qualitykids.net/ 

ควอลิตี้ คิดส์ เป็นโรงเรียนแรกของประเทศไทยที่ได้รับรองหลักสูตรจากกระทรางศึกษาธิการในประเภทสร้างเสริมทักษะชีวิต สำหรับเด็กอายุ 1.5-12 ปี ภายใต้แนวคิดที่ว่า “เพิ่มทักษะชีวิต คิดเป็นระบบ ครบทุกความฉลาด” โดยเด็กๆได้เรียนรู้ด้วยการลงมือทำ ผ่านเกมกิจกรรมที่สนุกสนาน ส่งผลให้เด็กเกิดการเชื่อมโยงความคิดได้รวดเร็วและจดจำได้ดีกว่า ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2533 ถึงปัจจุบันกว่า 30 ปี เป็นแฟรนไชส์สายการศึกษาที่การันตีคุณภาพจากผู้เรียนจบไปแล้วรวมกว่า 30,000 คนทั่วประเทศ ปัจจุบันมีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ใช้งบในการลงทุน 370,000 – 5,000,000 บาท โดยผู้ลงทุนจะได้รับการอบรมพนักงาน การอบรมด้านการบริหาร การขาย การสอน การออกแบบสถาบันตามมาตรฐานของควอลิตี้ คิดส์ รวมถึงได้อุปกรณ์และสื่อการเรียนการสอนต่างๆ และสิทธิในการใช้หลักสูตรต่างๆ ของควอลิตี้ คิดส์ ถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์การศึกษาที่น่าลงทุนอย่างมาก
 

 

4.คูลแบร์ 
 

ภาพจาก www.facebook.com/coolbear.milktea

ใครที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์เครื่องดื่มขอแนะนำ “คูลแบร์” ที่มีเครื่องดื่มหลากหลายเช่น นมหมีปั่น ชานมไข่มุก น้ำแข็งใสนมเหนียว และมีท็อปปิ้งให้เลือกกว่า 10 ชนิด เป็นแฟรนไชส์ที่ให้คนสนใจเริ่มต้นอาชีพได้ทันที มีทุกอย่างให้พร้อมตั้งแต่เคาน์เตอร์ อุปกรณ์ และวัตถุดิบ รวมถึงเป็นแฟรนไชส์ไม่มีการหักเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี วัตถุดิบบางอย่างผู้ลงทุนสามารถหาซื้อเองได้

รวมถึงเป็นแฟรนไชส์ที่คิดถึงผู้ลงทุนอย่างรอบด้าน คำนวณทุกอย่างให้พร้อมทั้ง ต้นทุน กำไร ราคาขาย กำไรต่อแก้ว รวมถึงระยะเวลาในการคืนทุน สอนเทคนิคการชง การบริหารจัดการร้าน ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 39,900 บาท สามารถเปิดร้านได้ทันที ราคาสินค้าเริ่มต้นแก้วละ 20 บาท ระยะเวลาคืนทุนไม่เกิน 2 เดือนกำไรสูงสุดถึง 23 บาท/แก้ว
 

 

5.เบค อะ วิช เจแปนนีส โฮมเมต เค้ก 
 

ภาพจาก www.facebook.com/bakeawish.japanesehomemadecake

เป็นแบรนด์เบเกอรี่สไตล์ญี่ปุ่นที่มีสูตรเบเกอรี่อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากเมืองโกเบ มีสินค้าน่าสนใจมากมายเช่น ชูครีมสไตล์ญี่ปุ่น , คุ้กกี้สไตล์ญี่ปุ่น , ขนมปัง และเครื่องดื่มต่างๆ สไตล์ร้านเน้นแบบคาเฟ่ที่อบอุ่นพร้อมต้อนรับลูกค้าทุกคนเป็นอย่างดี ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 600,000 บาท ใช้งบในการลงทุนเบื้องต้น 3 ล้าน – 3.5 ล้านบาท

สิ่งที่ผู้ลงทุนจะได้รับคือการการวางระบบบริหารจัดการในร้าน , อุปกรณ์สำคัญในการเปิดร้าน , การอบรมพนักงาน , การส่งเสริมด้านการตลาด , การพัฒนาสินค้าใหม่ๆให้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเป็นที่ปรึกษาให้ผู้ลงทุนตลอดอายุสัญญา เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์สายเบเกอรี่ที่ตอนนี้มีสาขาทั่วประเทศกว่า 59 แห่ง และคาดว่าในปี 2564 จะสามารถขยายสาขาเพิ่มขึ้นทั่วประเทศได้อีกจำนวนมาก
 

 

 

ภาพจาก www.facebook.com/bestbakeeggcake

“เบสเบค” ธุรกิจเบเกอรี่มีสินค้าโดดเด่นคือ “เค้กไข่ไต้หวัน” เป็นอีกหนึ่งสินค้าติดไอเดียที่แปลก แตกต่าง โดย “เบสเบค” ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนการผลิต เริ่มจากการเลือกใช้วัตถุดิบหลักคือ “ไข่” ผสมผสานกับวัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ ที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ถือเป็น “เค้กไข่ไต้หวัน” สูตรโบราณ ที่พร้อมสร้างธุรกิจให้คนสนใจ สามารถมีกำไรจากการเปิดร้านเบเกอรี่ได้ไม่ยาก

ค่าแฟรนไชส์ในการลงทุน 220,000 บาท หรือสามารถเลือกรูปแบบการลงทุนได้ตามต้องการ โดยจุดเด่นของ “เค้กไข่ไต้หวัน” เบสเบค คือเนื้อเค้กนุ่ม ฟู ละลายในปาก ตัวแพคเกจออกแบบสวยงามเหมาะสำหรับเป็นสินค้าสำหรับของฝากและของขวัญได้อย่างดี เป็นแฟรนไชส์ลงทุนครั้งเดียวไม่มีค่าลิขสิทธิ์ ไม่มีส่วนแบ่งการตลาด ซื้อครั้งเดียวอุปกรณ์ครบสามารถเปิดร้านได้ทันที นอกจากนี้ทางแฟรนไชส์ยังพร้อมวางระบบภายในร้านให้ผู้ลงทุนสามารบริหารจัดการร้านได้อย่างมืออาชีพ 
 

 

นอกเหนือจากแฟรนไชส์และธุรกิจหลายอย่างที่น่าสนใจ ThaiFranchiseCenter.com ยังได้จัดหมวดหมู่แต่ละธุรกิจทั้งที่เป็นแฟรนไชส์ของไทยและต่างประเทศเพื่อนำเสนอแฟรนไชส์ที่เป็น New Arrival Franchise ให้ทุกท่านได้รับทราบอย่างต่อเนื่องทุกเดือนอีกด้วย 

 

ดูรายละเอียดข้อมูลธุรกิจแฟรนไชส์มาใหม่ แบรนด์อื่นๆ ที่น่าสนใจได้ที่ bit.ly/3oPvbhn

 

นักเขียน

คุณรัตนชัย ม่วงงาม (เปี๊ยก)